เรื่องของสีกับงานพิมพ์

เรื่องของสีกับงานพิมพ์

จากครั้งที่แล้ว ผมได้กล่าวถึงเทคนิคของการออกแบบป้ายโฆษณาเบื้องต้นไปแล้ว ว่าออกแบบอย่างไรให้โดนใจลูกค้า ซึ่งในครั้งก่อนเรามีการกล่าวถึงเรื่องของโทนสี ซึ่งมีผลต่อความสนใจในการมองของคนเรา วันนี้ผมจะมาพูดถึงสีกับงานพิมพ์นะครับ

หลายๆ ท่านคงจะเคยประสบปัญหาว่า ทำไมเวลาพิมพ์งานแล้วออกมาไม่ตรงกับสีที่เราเห็นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ จึงทำให้เกิดปัญหาสีผิดเพี้ยนไป ไม่ตรงตามแบบที่เราต้องการ หลายท่านคงจะคุ้นเคยกับโหมดสีที่เรียกว่า RGB และ CMYK ซึ่งสองตัวนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร ผมจะอธิบายเบื้องต้นให้ดังนี้

RGB คือ สีที่เกิดจากแสง สีที่เกิดจากแสงคืออะไร? สีที่เกิดจากแสงก็คือสีที่เกิดจากเวลาที่แสงส่องผ่านปริซึม ที่เราเรียกกันว่า สีรุ้งนั่นเอง โดยสีหลักจะมีทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีม่วง สีคราม สีน้ำเงิน สีเขียว สีเหลือง สีแสด และสีแดง ซึ่งทั้ง 7 สีนี้ เกิดจากการผสมกันของสี 3 สีคือ สีแดง (Red) สีเขียว (Green) สีน้ำเงิน (Blue) ซึ่งทั้ง 3 สีนี้เราเรียกว่า แม่สีของแสง และพอเราเอาทั้ง 3 สีนี้มาฉายรวมกัน ก็จะเกิดเป็นสีใหม่เพิ่มขึ้นอีก 3 สี คือ สีฟ้า (Cyan) สีชมพู (Magenta) สีเหลือง (Yellow) ส่วนจุดที่ทั้ง 3 สีทับกันจะเกิดเป็นสีขาว RGB จึงเป็นสีที่เราเห็นในชีวิตประจำวันนั่นก็คือ จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือ โทรทัศน์เราคงจะคุ้นตากับสี RGB จากโลโก้ของทีวีช่องต่างๆนั่นเอง

 

(ปัจจุบัน ช่อง 9 ช่อง 11 และไทยพีบีเอส เปลี่ยนโลโก้ไปแล้ว ส่วน itv เปลี่ยนเป็น ไทยพีบีเอส ยังคงเหลือช่อง 3 ช่อง 5 และ ช่อง 7 ที่ยังใช้โลโก้เป็นสี RGB) 

ดังนั้นเราจึงจำได้ง่ายๆ ว่า RGB คือสีจากแสงโทรทัศน์นั่นเอง

RGB


ขอบคุณภาพประกอบจาก : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

 

ส่วน CMYK คือ สีที่เกิดจากการผสมกันของ RGB แล้วเกิดเป็นสีใหม่

  • สีฟ้า      (Cyan) เกิดจาก สีเขียว (Green) ผสมกับสีน้ำเงิน (Blue)
  • สีชมพู   (Magenta) เกิดจาก สีแดง (Red) ผสมกับสีน้ำเงิน (Blue)
  • สีเหลือง (Yellow) เกิดจาก สีแดง (Red) ผสมกับสีเขียว (Green)
  • สีดำ      (Black) เกิดจากทั้งสามสีมาตัดกันจะเกิดเป็นสีดำ

แต่ในความเป็นจริง เวลาพิมพ์งาน สีตรงจุดตัดจะไม่ได้ดำสนิท เนื่องจากปัญหาความไม่บริสุทธิ์ของหมึกพิมพ์ จึงทำให้ต้องเพิ่มสีดำ (Black) เข้าไป จึงเป็นที่มาของ CMYK หรือการพิมพ์แบบ 4 สีนั่นเอง

CMYK


ขอบคุณภาพประกอบจาก : http://www.hiland.com/

สรุปง่ายๆ ก็คือ RGB คือ สีที่เกิดจากแสง ส่วน CMYK คือสีที่เกิดจากการผสมกันของ RGB หรือเรียกง่ายๆ ว่า CMYK เป็นลูกของ RGB นั่นเอง

ดังนั้นในงานพิมพ์ เราจึงควรเลือกใช้ CMYK เพราะเป็นโหมดสีที่มีความทันสมัยที่สุด ที่เรียกว่าการพิมพ์ออฟเซท และเหมาะกับงานพิมพ์มากที่สุด เนื่องจาก CMYK จะสามารถเก็บรายละเอียดของสีได้ครบถ้วนโดยการพิมพ์ทีละสี โดยการผสมเม็ดสีจะใช้อัตราเปอร์เซ็นต์ที่ต่างกัน ตั้งแต่ 10-20-30-40-50-60-70-80-90 จนถึง 100  ซึ่งจะช่วยลดความผิดเพี้ยนของสีทำให้ได้สีเหมือนแบบมากที่สุดนั่นเอง

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือเสนอะแนะข้อมูลเพิ่มเติม ท่านสามารถติดต่อได้ที่ cs@ivorytower.co.th  หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ivorytower.co.th นะครับ

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 680,959